
เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ.2563 ศูนย์ปฏิบัติธรรมโพธิ์ไทรแก้ว อ.โพธิ์ไทร จ.อุบลราชธานี จัดปฏิบัติธรรมบูชาข้าวพระและไถ่ชีวิตโค อนุโมทนาบุญ มา ณ โอกาสนี้ด้วย
การไถ่ชีวิตโค-กระบือ ก็คือการที่เราไปเอาเงินไปซื้อชีวิตโค-กระบือ ที่กำลังจะถูกส่งไปฆ่ายังโรงฆ่าสัตว์เพื่อช่วยชีวิตพวกเขาเอาไว้น่ะครับ โค-กระบือตัวที่เรานำเงินไปซื้อนั้นเขาก็จะเลี้ยงดูอย่างดีให้พวกมันแก่ตายไปเอง ถือว่าเป็นการให้อภัยทานให้ชีวิตทานแก่สัตว์เหล่านั้นครับ (ถ้าเป็นคนไทยสมัยก่อนเขาบางคนก็จะถือไม่ค่อยทานเนื้อพวกวัวควายเท่าไหร่หรอกครับ เพราะว่าถือว่าสัตว์เหล่านั้นมีบุญคุณกับเราเนื่องจากเขาช่วยเราทำนา ข้าวที่เรามีกินได้ทุกวันส่วนหนึ่งก็มาจากน้ำพักน้ำแรงของพวกเขา แต่มาสมัยนี้ชาวนาหันมาใช้เครื่องยนต์กันมากขึ้นวัวควายก็เลยลดบทบาทหน้าที่ตรงจุดนั้นลงไปบ้างครับ)
สมัยพุทธกาลมีสามเณรรูปหนึ่งเป็นลูกศิษย์พระสารีบุตร ได้ถูกพระสารีบุตรทักว่าจะมีอายุอยู่ได้แค่ 7 วันด้วยญาณหยั่งรู้ของท่าน ให้รีบเดินทางกลับบ้านไปลาพ่าแม่ญาติพี่น้องให้เรียบร้อย ระหว่างทางปรากฏว่าสามเณรรูปนี้ไปเจอชาวประมงจับปลาขึ้นมาได้และกำลังหิ้วปลาเหล่านั้นกลับบ้าน สามเณรเห็นดังนั้นก็เลยเข้าไปพูดคุยกับชาวประมงนั้นและก็เทศนาธรรมให้ฟัง จนชาวนาเกิดความซาบซึ้งในธรรมยอมที่จะปล่อยปลาเหล่านั้นลงน้ำไปพร้อมกับสมาทานรักษาศีล 5 ตลอดชีวิต
เมื่อครบกำหนด 7 วัน ปรากฏว่าสามเณรรูปนั้นไม่ตาย จึงได้เดินทางกลับไปหาพระสารีบุตร เมื่อพระสารีบุตรเห็นสามเณรรูปนั้นก็รู้สึกแปลกใจ ก็เลยไต่ถามเรื่องราวทั้งหมด เมื่อทราบเรื่องราวทั้งหมดแล้ว พระสารีบุตรก็เลยบอกสามเณรว่า ที่เธอรอดพ้นจากความตายมาได้นี้ก็ด้วยอานิสงส์ที่ได้ช่วยปลาและชาวนาคนนั้นเอาไว้ ไม่ให้ปลาเหล่านั้นต้องตายรวมถึงทำให้คนเลิกละปาณาติบาตได้ ซึ่งเป็นการช่วยเหลือชีวิตสัตว์อีกเป็นจำนวนมาก ผลบุญนี้จึงทำให้เดิมทีชะตาเธอถึงฆาตแต่ก็ผ่านพ้นตรงนั้นมาได้ ด้วยกรรมดีมาตัดรอนนั่นเองครับ
0 ความคิดเห็น